top of page

เลือกปูพื้นแบบไหนจึงจะคุ้มค่าและเหมาะกับบ้านคุณที่สุด ?

  • รูปภาพนักเขียน: seo5491
    seo5491
  • 12 มิ.ย. 2567
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 16 ก.ย. 2567

เลือกปูพื้นแบบไหนจึงจะคุ้มค่าและเหมาะกับบ้านคุณที่สุด ?

การเลือกวัสดุปูพื้นแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับการใช้งาน

     สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะรีโนเวทบ้าน ซ่อมแซมบ้าน หรือกำลังจะสร้างบ้านใหม่ ก็จะต้องคำนึงถึงหลายองค์ประกอบของตัวบ้านด้วยกัน โดยจะต้องมีการเลือกวัสดุที่มีความสวยงาม ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และในขณะเดียวกันก็จะต้องมีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานในระยะยาวได้ ซึ่งอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ เลยก็คือ “พื้นบ้าน” ซึ่งนอกจากที่เราจะต้องเลือกโทนสีให้เข้ากับตัวบ้านแล้ว เรื่องของวัสดุที่เหมาะสมก็มีความสำคัญมากเช่นกัน


     ซึ่งวัสดุของแผ่นปูพื้นบ้านนั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายประเภทและก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ในบทความนี้ PERGO จึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกแผ่นปูพื้นบ้านที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ พร้อมพาไปดูว่าวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมมีอะไรบ้าง และแต่ละชนิดนั้นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างไร เพื่อนำไปสู่การเลือกวัสดุปูพื้นบ้านได้อย่างเหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด



วัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมสูง มีอะไรบ้าง?

     โดยปกติแล้ว วัสดุที่นำมาใช้ปูพื้นบ้านนั้นจะมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ไม้ หรือหินอ่อน แต่ในบทความนี้ PERGO ขอยกวัสดุยอดนิยมมาทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน คือ พื้นไม้ลามิเนต, กระเบื้องยางไวนิล หรือ พื้นกระเบื้องยาง spc และ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้



พื้นไม้ลามิเนต เป็นวัสดุที่ทำมาจากเศษไม้เนื้อแข็งและผงไม้ต่างๆ ที่ผ่านกระบวนการบีบอัดกันจนแน่นเป็นแผ่นขึ้นมา จึงทำให้มีลักษณะคล้ายกับไม้จริง แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าอีกทั้งยังมีราคาที่ถูกกว่าด้วย สามารถใช้ปูในพื้นที่ได้หลากหลายแบบ ซึ่งจะให้ดีไซน์และลุคที่อบอุ่น เหมือนกับการใช้วัสดุไม้จริง โดยพื้นไม้ลามิเนตที่ PERGO มีความหนาอยู่ที่ 8 มม. และ 12 มม. มีระดับคงทนทานของพื้น 2 ระดับให้เลือก คือ AC3 และ AC4 ส่วนสีนั้นมีให้เลือกถึง 30 สี โดยได้รับมาตรฐาน E1 ปลอดภัยต่อสุขภาพผู้ใช้งาน


ข้อดีของพื้นไม้ลามิเนต

  • วัสดุเทียบเท่าไม้จริง แต่มีราคาถูกกว่า

  • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและติดตั้งง่าย

  • สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่หลากหลาย

  • สามารถทนความร้อนจากแสงแดดได้ดี

  • ดูแลรักษาง่าย

  • ข้อเสียของพื้นไม้ลามิเนต

  • ทนต่อความชื้นได้ค่อนข้างน้อย

  • ลวดลายของไม้ค่อนข้างซ้ำกัน ดังนั้น ก่อนปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต จะต้องมีการวางแพทเทิร์นให้เรียบร้อยก่อนเพื่อลดความผิดพลาด

  • เป็นอาหารของปลวกได้



กระเบื้องยางไวนิล หรือ พื้นกระเบื้องยาง spc (Stone Plastic Composite) เป็นพื้นกระเบื้องยางชนิดใหม่ที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งผลิตมาจากการผสมกันของหินปูนและ PVC จึงทำให้พื้นมีทั้งความยืดหยุ่นและแข็งแรงทนทานไปพร้อมกัน ด้วยคุณลักษณะที่สามารถกันน้ำได้ดีและไม่เป็นอาหารของปลวก ติดตั้งง่าย ฝุ่นน้อย คนจึงนิยมใช้ กระเบื้องยาง spc กันอย่างแพร่หลาย บนหน้าแผ่นใช้ฟิล์ม PVC พิมพ์ลายเช่นลายไม้ ลายหิน ลายพรมและใช้เทคโนโลยีความร้อนรีดฟิล์มและแกนพื้นให้เป็นแผ่นเดียวกัน


ข้อดีของพื้นกระเบื้องยาง spc

  • กันน้ำ ทนต่อความชื้นได้ดี

  • ติดตั้งง่าย

  • ทนทานต่อรอยขีดข่วน สารเคมี และการเผาของไฟ

  • ไม่มีสารก่อมะเร็งและไม่มีส่วนผสมของใยหินจึงทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน

  • ข้อเสียของพื้นกระเบื้องยาง spc

  • หากติดตั้งในห้องที่มีอุณหภูมิสูง พื้นกระเบื้องยาง อาจเกิดการหดตัวหรือขยายตัวได้

  • กระเบื้องยางปูพื้นมีผิวสัมผัสที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

  • แผ่นพื้นมีความบาง หากติดตั้งบนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ลิ้นอาจแตกหักได้



พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เป็นวัสดุทดแทนไม้จริงที่เหมือนไม้จริงมากที่สุดเนื่องจากหน้าไม้ใช้ไม้จริงที่มีความหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตร สำหรับปิดผิวด้านบน ทำให้มีผิวสัมผัสแบบไม้จริง และด้วยกระบวนการผลิตที่ใช้วิธีวางไม้สลับเสี้ยน ทำให้พื้นยืดหดน้อยกว่าไม้จริง และป้องกันการเกิดไม้โก่งหรือบิดได้ดีกว่าไม้จริงในราคาที่ถูกกว่ากัน อีกทั้งยังมีการอัดน้ำยากันปลวกไว้ภายใน จึงป้องกันการกัดแทะจากปลวกและแมลงต่างๆ ได้ดี


ข้อดีของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • เป็นวัสดุที่มีความคล้ายกับไม้จริงมากที่สุด สามารถใช้ทดแทนไม้จริงได้ในราคาที่ถูกกว่า

  • ป้องกันการเกิดไม้โก่งหรือบิดได้ดีกว่าไม้จริง

  • ติดตั้งง่าย เพียงแค่วางแผ่นพื้นให้ร่องลิ้นเข้าล็อกกัน


ข้อเสียของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์

  • มีราคาสูงกว่าพื้นที่มีลวดลายชนิดอื่นๆ

  • หากติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่มีความเรียบเสมอเท่ากัน ก็จะทำให้เกิดเสียงดังได้

  • เป็นอาหารของปลวก



การเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับแต่ละห้อง

     การเลือกวัสดุปูพื้น จะต้องมีการแบ่งแยกสัดส่วนในแต่ละห้องหรือแต่โซนด้วยว่าควรใช้แบบไหน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด และเพื่อให้วัสดุไม่เสียหายง่าย โดยการเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับแต่ละห้อง ควรคำนึงถึงปริมาณการสัญจรและความทนทานของผิวหน้าพื้น โดยสามารถเลือกได้ดังนี้


  • ห้องนอน วัสดุที่เหมาะสมกับการปูพื้นห้องนอนมากที่สุดคือ กระเบื้องยางไวนิล หรือ พื้นกระเบื้องยาง spc พื้นไม้ลามิเนต และพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เพราะเป็นวัสดุที่มีความสบายผิว ไม่ส่งเสียงดัง และสามารถสร้างบรรยากาศภายในห้องนอนให้ดูอบอุ่นได้ หรือถ้าหากใครมีงบประมาณเพียงพอก็สามารถใช้วัสดุไม้แท้ได้เช่นกัน

  • ห้องน้ำ สำหรับกระเบื้องปูพื้นห้องน้ำ จะต้องใช้วัสดุที่สามารถติดตั้งในบริเวณที่มีความชื้นได้ รวมถึงพื้นผิวก็ไม่ควรเป็นผิวมันเพราะอาจจะทำให้ลื่นได้ง่าย ดังนั้น กระเบื้องปูพื้นห้องน้ำควรเลือกเป็น กระเบื้องแกรนิตโต้หรือกระเบื้องเซรามิกจึงจะเหมาะสมที่สุด

  • ห้องรับแขก/ห้องโถง ห้องรับแขก ห้องโถง หรือห้องนั่งเล่น เป็นห้องที่สมาชิกจะใช้งานมากที่สุด ดังนั้น ควรเลือกวัสดุปูพื้นที่มีความแข็งแรง และให้ความรู้สึกที่อบอุ่น เช่น กระเบื้องยางไวนิล หรือ พื้นกระเบื้องยาง spc พื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ปูด้วยพรม หรือใช้ไม้จริงก็ได้เช่นกัน

  • ห้องครัว ห้องครัว เป็นห้องที่จะต้องเจอกับคราบสกปรก และความร้อนตลอดเวลา ดังนั้น วัสดุปูพื้นที่เหมาะสมมากที่สุด จะต้องเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องยางไวนิล กระเบื้องยาง spc หรือกระเบื้องเซรามิก เป็นต้น



     การเลือกวัสดุปูพื้นบ้าน นอกจากจะต้องเลือกให้สวยงามและเข้ากับตัวบ้านแล้ว ควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมแก่การใช้งานในแต่ละพื้นที่ด้วย หรือสำหรับใครที่กำลังมองหากระเบื้องยางปูพื้นที่มีมาตรฐาน มีคุณภาพดี สอบถามได้เลยที่ บริษัท เปอร์โก้ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายพื้นกระเบื้องยาง กระเบื้องยาง spc กระเบื้องยางไวนิล พื้นไม้ลามิเนต พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ชั้นนำในประเทศไทย พร้อมบัว ตัวเชื่อม ตัวจบ โฟมรองพื้น บริการติดตั้ง สินค้าคุณภาพสูงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในบ้านหรือสำนักงาน การันตีด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี



สนใจพื้นกระเบื้องยาง พื้นลามิเนต ติดต่อ Pergo Thailand ตามช่องทางดังนี้

Line ID : evepergo 

Comments


bottom of page